วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2557

การศึกษาโครงงานตัวอย่าง

ตัวอย่างโครงงานเรื่อง  เกมฝนหลวงออนไลน์
ความเป็นมาของโครงงาน
                   การออกแบบการพัฒนาซอฟต์แวร์ก้าวหน้ามากขึ้น ด้วยเทคโนโลยีสื่อผสม (Multimedia) นั้นเป็นเทคโนโลยีหนึ่งที่ กำลังได้รับความสนใจอย่างสูง เพราะการประยุกต์ ใช้งานเทคโนโลยีสื่อผสมสามารถตอบสนองความตองการที่หลากหลายได้มากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับในอดีต ตัวอย่างที่สําคญของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสื่อผสม   คือ เกม เป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในวงการคอมพิวเตอร์ซึ่งเกมในปัจจุบันมีหลายประเภท เช่น เกมต่อสู้  เกมผจญภัย เกมออนไลน์ และอื่น ๆ เกมเหล่านี้ล้วนมีเนื้อหาเกมที่รุนแรง เมื่อผู้เล่น เล่นเกมแล้วอาจเกิดความก้าวร้าวในเกมติดตัวมา และอีกอย่างที่ในตัวเกมขาดไปคือ การให้  ความรู้ระหว่างการเล่นเกม โดยการแทรกเนื้อหาสาระเขาไปในตัวเกม เพื่อให้ผู้เล่นได้รับความรู้เทคโนโลยีการสร้างเกมในปัจจุบันมหลายเทคโนโลยี ทั้งในเรื่องการสร้างภาพกราฟฟิก  การเคลื่อนไหว ตัวละครควรมีเทคโนโลยีที่แตกต่างกันไป แต่ปัญหาที่พบสวนมากก็จะพบในเรื่องกราฟฟิก ที่เป็นภาพบิตแมพ ความละเอียดของภาพน้อย ภาพแตก เกิดจากการรวมตัวของจุดหลายจุด เมื่อขยายภาพขึ้นภาพก็จะแตก จะพบมากในเกมประเภทเกม RPG   เกมฝนหลวงออนไลน์( Royal Rain Online ) เป็นอีกแนวคิดหนึ่งที่ได้นําเทคโนโลยีการสร้าง ภาพกราฟิกที่มีความละเอียดสูง คือ ภาพเวคเตอร์ เกิดจากการคํานวณทางดานคณิตศาสตร์ ซึ่งในเกมฝน หลวงออนไลน์ (Royal Rain Online) นี้ได้นําเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ รวมไปถึงการแทรกเนื้อหาบางส่วนเกี่ยวกับการทําฝนหลวง เพื่อให้ ผู้เล่นได้รับความรู้ และความสนุกสนานอย่างเหมาะสม และมีการทําติดต่อในลักษณะออนไลน์เพื่อเปรียบเทียบคะแนนระหว่างผู้เล่น รวมไปถึงการจัดการระบบ การสมัครสมาชิกและสวนจัดการกับระบบสําหรับผู้ดูแลระบบ

วัตถุประสงค์ของโครงงาน 
- เพื่อพัฒนาเกมฝนหลวงออนไลน์

ขอบเขตของโครงงาน 
- เนื้อเรื่องของเกมคือ ผู้เล่นรับบทเป็นเจ้าหน้าที่ทําฝนหลวง คือ ไปทําฝนหลวงในเขตพื้
นที่หมู่บ้าน


เอกสารอ้างอิง 
กิตติ ภักดีวัฒนะกุล . คัมภีร์ PHP . บริษัทเคทีพี คอมพ์ แอนด์ คอนซัลท์ จํากัด , กรุงเทพฯ : 2549. จักรพงษ์ เจือจันทร์ .
โฮมเพจ (Home Page) “Web Application”. [ออนไลน์]. 
 เข้าถึงจาก : http://www.kradandum.com/thesis/thesis-02-3.htm 
(12 มิถุนายน 2551). 
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในสํานักงานอัตโนมัติสําหรับครูธุรกิจ .
 การวิเคราะห์และการออกแบบ ระบบ “Web Application”. [ออนไลน์]. 
 เข้าถึงจาก : 
http://cyberlab.lh1.ku.ac.th/elearn/faculty/educate/edu48/les31.htm
 (12 มิถุนายน 2551). 

ที่มา ;http://com.snru.ac.th/UserFiles/File/Demo_game.pdf

วันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2557

รายงานการเรียนรู้การใช้ซอฟแวร์สร้างสรรค์ผลงาน

เนื้อหาประกอบด้วย
ชื่อโครงงาน วัยรุ่นไทยและปัญหายาเสพติด
กลุ่มที่  9
สมาชิกกลุ่ม
นางสาว วริศรา จอมสวัสดิ์ ม.5/11 เลขที่ 23
นางสาว ณัฐกุล บุญญา ม.5/11 เลขที่ 35
นางสาว สิรินทิพย์ บุญญานุกูล ม.5/11 เลขที่39
วิธีดำเนินการ
1. คิดหัวข้อโครงงานเพื่อนำเสนอ อาจารย์ที่ปรึกษา
2. ศึกษาและค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่กลุ่มตนเองสนใจ คือเรื่อง วัยรุ่นไทยกับปัญหายาเสพติด
3. ศึกษาการใช้โปรแกรมในการสร้างเกมคอมพิวเตอร์ กับอาจารย์ที่ปรึกษา
4. ศึกษาการใช้โปรแกรม Adobe Flash CS3 เพิ่มเติมผ่านทางเว็บไซต์ในอินเตอร์เน็ต
5. นำความรู้ที่ได้ศึกษามาฝึกฝนและปฏิบัติ
6. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่ม ค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่กลุ่มตนเองสนใจ และโพสลงเว็บบล็อกของตนเอง เพื่อให้อาจารย์ที่ปรึกษาตรวจ
7. สร้างวิธีการใช้งานโปรแกรมลงในเว็บบล็อกของสมาชิกในกลุ่ม
8. นำเสนอรายงานความก้าวหน้าเป็นระยะๆ แก่ครูที่ปรึกษาผ่านทางเว็บบล็อกของสมาชิกในกลุ่ม
ผลการดำเนินการ (สรุปความรู้ที่ได้)
                จากการเรียนรู้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมทำให้
1.รู้จักการทำงานเป็นกลุ่ม
2.รู้จักศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ต่าง ๆ และผู้ที่มีความรู้
3.รู้วิธีการสร้างเว็บ blog
4.มีความรู้เพิ่มเติมในการสร้างเกม สร้างภาพการ์ตูน และสร้าง background กราฟิกสวย ๆ
5. รู้วิธีการใช้โปรแกรม Adobe flash CS3 เบื้องต้น เช่น การสร้าง file, ส่วนประกอบจอภาพการทำงานบันทึกไฟล์เปิดไฟล์และปิดไฟล์  เป็นต้น
6. สามารถสร้างเกมด้วยโปรแกรม Adobe flash CS3 ได้
7. สามารถนำความรู้มาประยุกต์ใช้และเผยแพร่แก่ผู้อื่นได้
แหล่งเรียนรู้
1.อาจารย์กิตติมา เพชรทรัพย์
2.นายกษิน แย้มศรี
3.YouTube
4.เว็บไซต์การใช้โปรแกรม Adobe flash CS3
ประโยชน์ทางการแพทย์ของมอร์ฟีน 


                     มอร์ฟีนออกฤทธิ์กดศูนย์ประสาทสมองส่วน Cerebral Cortex ดังนั้นแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญจึงสามารถนำมอร์ฟีนมาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ได้โดยถูกต้องตามกฎหมาย การใช้มอร์ฟีนก็เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยลดความเจ็บปวดได้ ดังนี้   
                      1.  ช่วยยกระดับความอดกลั้น ต่อความรู้สึกเจ็บปวดให้สูงขึ้น จึงทำให้ช่วยรับความรู้สึกด้านความเจ็บปวดน้อยลง เพราะฤทธิ์ มอร์ฟีนไปกดประสาทส่วนรับความรู้สึก ดังนั้นถ้าความเจ็บปวดของร่างกายเป็นขนาดกลางความเจ็บปวดนั้นจะหายไปได้ แต่ถ้าเป็นความเจ็บปวดขนาดสูง เช่น ปวดแบบเสียดแทง หรือปวดจี๊ด ฤทธิ์ของมอร์ฟีน ก็จะไปกดประสาททำให้เปลี่ยนเป็นความเจ็บปวดแบบตื้อหรือปวดชาๆ ไม่รุนแรงเท่าเดิม ผู้ป่วยจึงทนต่อความเจ็บปวดได้   
                       2.  ช่วยยกระดับอารมณ์ของผู้ป่วยให้สูงขึ้น โดยปกติผู้ป่วยที่มีความเจ็บปวดจะมีอารมณ์เศร้าหมอง และหดหู่ไม่เบิกบาน เมื่อ แพทย์ให้มอร์ฟีนเข้า  ไปกดประสาททำให้เกิดความรู้สึกมึนชาลดความเจ็บปวดลงได้ เป็นเหตุทำให้เกิดความสบายอารมณ์ขึ้น                                                                                                                                                    
                        3.ช่วยขจัดความวิตกกังวล ห่วงใย และความหวาดกลัวให้หมดไป โดยที่ฤทธิ์ของมอร์ฟีนเข้าไปกดประสาทส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น ประสาท ซิมพาเตติค ทำให้อวัยวะใน ร่างกายทำงานน้อยลง เท่ากับเป็นการพักผ่อนของร่างกาย ช่วยให้เกิดความผาสุกทางด้านจิตใจ จึงขจัดความวิตกกังวลและความหวาดกลัวลงได้          
                                                   ที่มา: http://iam.hunsa.com/aimy6340/article/2924

สถิติยาเสพติด

     ผลสำรวจในปี 2555 นายวิบูลย์ทัต สุทันธนกิตติ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผยว่าเกือบครึ่งของประชาชนระบุว่ายังคงมีปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชน/หมู่บ้าน (ร้อยละ 40.4) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2552 ที่มีประชาชนประมาณ 1 ใน 3 ที่ระบุว่ามีปัญหาฯ (ร้อยละ 32.2)  แม้ภาครัฐจะมีมาตรการเชิงรุกในการปราบปราบกระบวนการ ค้ายาเสพติด อย่างเข้มงวด แต่ประชาชนยังคงคิดว่ายาเสพติดหาซื้อได้ง่ายขึ้น มากกว่าเดิมเกือบเท่าตัวจากร้อยละ 8.0 ในปี 2552 เป็นร้อยละ 13.0 ในปี 2555 เช่นเดียวกับปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในโรงเรียน/สถานศึกษา ที่ประชาชนประมาณ 1 ใน 3 ยังคงคิดว่ามีปัญหาอยู่

char2

char2


 แม้ภาครัฐจะกวดขันการจัดระเบียบสังคมในชุมชน/หมู่บ้าน โดยเฉพาะการมั่วสุมของเด็ก/เยาวชนตามสถานบันเทิงต่างๆ เพื่อป้องกันการถูกชักนำไปในทางที่ผิด เนื่องจากในสถานบันเทิงมักหนีไม่พ้นที่จะต้องมีการดื่มสุราอย่างแน่นอน และสุราอาจถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเสี่ยงต่อการอยากรู้อยากลองของวัยรุ่นเช่นกัน ข้อมูลการดื่มสุราของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า ตั้งแต่ปี 2547 – 2554 กลุ่มวัยรุ่นมีการดื่มสุราเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 23.5 ในปี 2547 เป็นร้อยละ 23.7 ในปี 2554 แม้ดูเหมือนเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยแต่ถือได้ว่าเป็นจุดกำเนิดที่ทำให้วัยรุ่น/เยาวชนมีโอกาส สัมผัสกับยาเสพติด และตกเป็นทาสยาเสพติดได้ในที่สุด

ที่มา : http://service.nso.go.th/nso/web/article/article_50.html


วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ลักษณะของผู้ติดยาเสพติด

 การเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย
-สุขภาพ ทรุดโทรมผอมซูบซีด
-ริมฝีปากเขียวคล้ำ แห้งแตก
-ผิวหนังหยาบกร้าน เป็นแผลพุพอง
-น้ำมูกน้ำตาไหล เหงื่อออกมาก
-มักใส่แว่นกรองแสงสีเข้ม เพื่อต่อสู้กับแสงสว่างเพราะม่านตาขยาย
-มีร่องรอยการเสพยาโดยการฉีด นิ้วมือมีรอยคราบเหลืองสกปรก
-มีรอยแผลเป็นที่ท้องแขนเป็นรอยกรีด ด้วยของมีคม (ทำร้ายตนเอง)

 การเปลี่ยนแปลงทางจิตใจ ความประพฤติ และบุคลิกภาพ
-ขาดการเรียน หนีโรงเรียน การเรียนด้อยลงสติปัญญาเสื่อม การงานบกพร่อง
-ไม่สนใจต่อสิ่งแวดล้อม ชอบแยกตัวเอง หลบซ่อนตัว ทำตัวลึกลับ
-เป็นคนเจ้าอารมณ์ หงุดหงิด เอาแต่ใจตนเอง ขาดเหตุผล พูดจาก้าวร้าว ดื้อรั้นไม่เชื่อฟัง สามารถทำร้ายบิดามารดาได้
-ไม่สนใจความเป็นอยู่ของตนเอง แต่งกายไม่สุภาพเรียบร้อย สกปรก
-สีหน้าแสดงความผิดหวังกังวล ซึมเศร้า
-พกอุปกรณ์เกี่ยวกับยาเสพติด เช่น เข็มฉีดยา กระดาษตะกั่ว ไม้ขีดไฟ
- เมื่อขาดยาเสพติดจะมีอาการอยากยาเสพติดเกิดขึ้น  เช่น   มีอาการน้ำมูก น้ำตาไหล หาวนอน จามคล้ายเป็นหวัด
กระสับกระส่าย กระวนกระวาย หายใจถี่ลึก จ้องหาแต่ยาเสพติด จะขวนขวายหามาเสพไม่ว่าด้วยวิธีการใด ๆ
คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน อาจมีเลือดปนออกมาด้วย เรียกว่า ลงแดงขนลุก เหงื่อออก เป็นตะคริว กล้ามเนื้อกระตุก ขบฟัน ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดเสียวในกระดูกดิ้นทุรนทุราย  มีไข้และความดันโลหิต ชักกระตุก นอนไม่หลับ คลุ้มคลั่ง เสียสติ

 สาเหตุของการติดยาเสพติด
-ความอยากรู้อยากลอง ด้วยความคึกคะนอง
-เพื่อนชวน หรือเพื่อนต้องการให้เป็นที่ยอมรับจากกลุ่มเพื่อน
-มีความเชื่อในทางที่ผิด เช่น เชื่อว่ายาเสพติดบางชนิดอาจช่วยให้สบายใจ ลืมความทุกข์หรือช่วยให้ทำงานได้มาก ๆ
-ขาดความระมัดระวังในการใช้ยา เพราะคุณสมบัติ ของยาบางชนิด อาจทำให้ผู้ใช้เกิดการเสพติดได้โดยไม่รู้ตัว
-ใช้ยาอย่างพร่ำเพรื่อ หรือใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานโดยขาดการแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกร
-สภาพแวดล้อมถิ่นที่อยู่อาศัยมีการค้ายาเสพติด หรือมีผู้ติดยาเสพติด
-ถูกหลอกอาจเพื่อประโยชน์ในการค้ายาเสพติด
-เพื่อหนีปัญหา เมื่อมีปัญหาแล้วไม่สามารถแก้ให้กับตนเองได้

ที่มา: http://www.sri.cmu.ac.th/~nsac/All_Page/Knowledge/Behavior_of_Patient.htm

การป้องกันยาเสพติด


1. ป้องกันตนเอง

       ไม่ทดลองเสพยาเสพติดทุกชนิด ถ้ามีปัญหาหรือไม่สบายใจ อย่าเก็บไว้คนเดียว ไม่หาทางออกในทางที่เป็นโทษ ควรปรึกษา พ่อ แม่ ครู ผู้ใหญ่ ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เช่น อ่านหนังสือ เล่นกีฬา หรือทำงานอดิเรกต่าง ๆ ระมัดระวังการใช้ยาและศึกษาให้เข้าใจ ถึงโทษ ของยาเสพติด

2. ป้องกันครอบครัว

      ควรสอดส่องดูแลเด็กและบุคคลในครอบครัวอย่าให้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด อบรมสั่งสอนให้รู้ถึงโทษภัยของยาเสพติด ดูแลเรื่องการคบเพื่อน คอยส่งเสริมให้เขารู้จักการใช้เวลาในทางที่เป็นประโยชน์ เช่น การทำงานบ้าน เล่นกีฬา ฯลฯ เพื่อป้องกันมิให้เด็กหันเหไปสนใจในยาเสพติด สิ่งสำคัญก็คือ ทุกคนในครอบครัวควรสร้างความรักความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดีต่อกัน

3. ป้องกันชุมชน

      หากพบผู้ติดยาเสพติดควรช่วยเหลือแนะนำให้เข้ารับการบำบัดรักษาโดยเร็ว ""การสมัครขอเข้ารับ การบำบัดรักษายาเสพติดก่อนที่ความผิดจะปรากฎต่อเจ้าหน้าที่กฎหมายยกเว้นโทษให้"" และเมื่อรู้ว่าใครผลิต นำเข้า ส่งออก หรือจำหน่ายยาเสพติด ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ศุลกากร นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ หรือเจ้าหน้าที่ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เพื่อดำเนินการกวาดล้างและปราบปรามมิให้ยาเสพติดกระจายไปสู่ชุมชน

ข่าวยาเสพติด

จับยาบ้าฟรุ้งฟริ้ง 9 หมื่นเม็ด ส่องประกายได้ ฤทธิ์แรงกว่าเดิม


เป็นเม็ดสีส้ม ส่องแสงประกายเมื่อส่องไฟ ฤทธิ์แรงกว่าเดิม

        เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดปราบปรามยาเสพติด กองบังคับการสืบสวน                สอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 ได้เข้าจับกุมตัว นายวีระชาติ สุข อายุ 27 ปี ชาวต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว         จ.เชียงใหม่ และ น.ส.นาเหมย จะอื่อ อายุ 32 ปี สองสามีภรรยาชาวลีซอ พร้อมของกลางยาบ้า          จำนวนมาก ริมถนนเวียงป่าเป้า - แม่ปูนหลวง บ้านสันติสุข หมู่ 1 ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย




            สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากชุดปราบปรามยาเสพติด กองบังคับการสืบสวนสอบสวน                  ตำรวจภูธรภาค 5 สืบทราบว่านายวีระชาติ สุข และ น.ส.นาเหมย จะอื่อ มียาบ้าจำนวนมากไว้ใน               ความครองเพื่อจำหน่าย จึงส่งสายลับเข้าติดต่อล่อซื้อยาบ้าจำนวน 94,000 เม็ด ในราคา                         5,000,000 บาทพร้อมนัดหมายส่งมอบยาบ้าในช่วงเย็นวานนี้ (1 กรกฎาคม)



     จนกระทั่งเวลานัดหมายเจ้าหน้าที่พบทั้งสองขี่รถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน 1 กฌ 9552 เชียงใหม่ โดยมีกระสอบปุ๋ยวางอยู่ระหว่างขา เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นพบยาบ้าของกลางทั้งหมดบรรจุในกระสอบปุ๋ยดังกล่าวโดยของกลางยาบ้าเป็นยาบ้าแบบใหม่ที่จับกุมได้เป็นครั้งแรก ซึ่งมีลักษณะเป็นเม็ดสีส้มที่เปล่งประกายแสงสีขาวระยิบระยับเมื่อนำไฟส่อง




        ขณะที่ทางด้าน พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชการตำรวจภูธรภาค 5 เผยว่า ผู้ต้องหาทั้ง            สองเป็นหนึ่งในเครือข่ายของนายจะเล่อ นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่เคลื่อนไหวในเขตอำเภอ             เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย และ อ.พร้าว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ โดยรับจ้างขนยาบ้าล็อตนี้ในราคา 1 แสนบาท จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเนื้อยามีส่วนผสมของสารเคมีที่เพิ่มฤทธิ์รุนแรงมากขึ้น ซึ่งจะส่งตรวจทางเคมีเพื่อพิสูจน์สารต่อไป